เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลุ่มธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกค้าของธนาคารฯ และบริษัทในเครือ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
|
มาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ สำหรับลูกหนี้รายย่อย |
• ปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยการรวมหนี้สินเชื่อของลูกหนี้รายย่อย ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้รายย่อยด้วยวิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation) |
เงื่อนไขมาตรการ |
• ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 • มีหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกับธนาคารไอซีบีซี (ไทย) ที่ยังมีการผ่อนชำระอยู่ ไม่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) และมูลค่าหลักประกันต้องเพียงพอสำหรับวงเงินสินเชื่อหลังการรวมหนี้ • นำสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภคประเภทอื่นมารวมกับหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อที่สามารถนำมารวมได้ ได้แก่ สินเชื่อบัตรเครดิต (เฉพาะบัตรหลักเท่านั้น) และสินเชื่อส่วนบุคคล |
ประโยชน์ของการรวมหนี้ |
• ภาระหนี้รายเดือนลดลง ทั้งดอกเบี้ยและค่างวด • ไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต • ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ค่าปรับ เป็นต้น • สามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่เหลือได้ ตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ |
|
ข้อควรพิจารณา |
• ต้องมีการจำนองหลักประกันที่เป็นประกันหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเดิม เพิ่มเติม และมีค่าใช้จ่ายในการจดจำนองและค่าอากรแสตมป์ • อาจต้องปิดบัตรเครดิต หรือวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลเดิม หรือถูกลดวงเงินบัตรเครดิตเดิมลง • มีประวัติปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคาร
|
มาตรการช่วยเหลือและมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบยั่งยืน |
ลูกค้าบัตรเครดิต |
• ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 0% จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566* • ปรับอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 5% เริ่มจากวันที่ 1 มีนาคม 2566 วันที่ 31 ธันวาคม 2566 • ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น อัตราดอกเบี้ยที่ MRR ของธนาคาร* *ขอสงวนสิทธิพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าเป็นรายกรณี |
ลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไม่จำกัดวงเงินสินเชื่อ |
สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 |
• ปรับลดภาระค่างวดต่อเดือน และขยายเวลาชำระค่างวด* |
สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจาก COVID-19 • ปรับลดภาระค่างวดต่อเดือน และขยายเวลาชำระค่างวด* • พักชำระค่างวด และขยายเวลาชำระค่างวด* • พิจารณารับคืนรถ* |
*ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัท ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป |
ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย |
• ผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยเป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 10 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินสิ้นเดือนธันวาคม 2564 • ขอสงวนสิทธิพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าเป็นรายกรณี |
ลูกค้าธุรกิจ (นิติบุคคลและบุคคลธรรมดา) ที่จดทะเบียนในประเทศไทย |
• ปรับปรุงโครงสร้างหนี้หรือปรับตารางการผ่อนชำระ รวมถึงการผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นและ/หรือดอกเบี้ยชั่วคราว และการขยายระยะเวลาชำระหนี้ ให้เข้ากับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในปัจจุบันและในอนาคต • ลดอัตราดอกเบี้ย • เพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ • ขอสงวนสิทธิพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าตามการแจ้งความเป็นประสงค์เป็นรายกรณี |
หมายเหตุ: กรณีที่มีการพักชำระหนี้เงินต้น ในช่วงระยะเวลาของการพักชำระหนี้ ธนาคารฯ ยังคงมีการคิดดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยที่ระบุในสัญญาสินเชื่อที่ลูกค้าได้ทำให้ไว้กับธนาคาร และจะไม่ถือว่าการพักชำระหนี้ดังกล่าวเป็นการผิดนัดหรือผิดเงื่อนไขตามสัญญาสินเชื่อ |
มาตรการ “สินเชื่อฟื้นฟู” |
เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ รักษาการจ้างงาน และฟื้นฟูกิจการ |
คุณสมบัติของลูกค้าที่เข้ามาตรการ |
• เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย และมีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจ อยู่ในประเทศไทย • เป็นลูกค้าของธนาคารฯ ที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจ (ไม่รวมภาระผูกพัน) ณ สิ้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ไม่เกิน 500 ล้านบาท หรือไม่เคยเป็นลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ที่ใดมาก่อน • ไม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ • ไม่ประกอบธุรกิจทางการเงิน • ไม่มีสถานะหนี้เป็น NPL ณ สิ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2562 |
วงเงินสินเชื่อ |
• เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย และมีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจ อยู่ในประเทศไทย • ไม่เกิน 30% ของวงเงินเดิมที่มีอยู่กับธนาคารฯ สิ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2562 หรือ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า แต่ไม่เกิน 150 ล้านบาท (นับรวมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของ ธปท. ปี 2563 ด้วย) หรือ • ไม่เกิน 50 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ใด ๆ ณ สิ้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 |
อัตราดอกเบี้ย |
|
• อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปีในช่วง 2 ปีแรก โดยไม่ต้องชำระดอกเบี้ยช่วง 6 เดือนแรก • อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ไม่เกิน 5% ต่อปี • ปีที่ 6 เป็นต้นไป (ถ้ามี) อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารฯ กำหนด |
ระยะเวลาสินเชื่อ |
• ระยะเวลาสินเชื่อ 5 ปี (กรณีมากกว่า 5 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารฯ เป็นรายกรณี แต่ทั้งนี้ ระยะเวลาสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 10 ปี) หมายเหตุ • ค้ำประกันโดย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมีค่าธรรมเนียม 1.75% ต่อปี • การอนุมติสินเชื่อและเบิกเงินกู้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารฯ และธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนด • การอนุมัติเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารฯ |
โครงการพักทรัพย์พักหนี้ |
เพื่อบรรเทาปัญหาด้านหนี้สินสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด 19 อย่างรุนแรง แต่ยังมีเจตนาและความตั้งใจในการประกอบธุรกิจ |
คุณสมบัติของลูกค้าที่เข้ามาตรการ |
• เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย และมีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจ อยู่ในประเทศไทย • เป็นลูกค้าของธนาคารฯ ที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจ ณ สิ้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 • ไม่ประกอบธุรกิจทางการเงิน • ไม่มีสถานะหนี้เป็น NPL ณ สิ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2562 |
รายละเอียดมาตรการ |
• ต้องเป็นทรัพย์สินที่ลูกหนี้หรือเจ้าของทรัพย์สินนำมาเป็นหลักประกันตามกฎหมายไทยกับธนาคารฯ ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2564 เพื่อประกันการชำระหนี้ของสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ เท่านั้น • ราคารับโอน เป็นไปตามการพิจารณาของธนาคาร • เจ้าของทรัพย์สินหรือลูกหนี้ มีสิทธิซื้อคืนทรัพย์สินที่ธนาคารฯ รับโอน ได้ภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่รับโอน • ลูกหนี้หรือเจ้าของทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน สามารถเช่าทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันเพื่อนำไปประกอบธุรกิจต่อได้ ตามอัตราค่าเช่าที่จะตกลงกัน โดยแจ้งความประสงค์เช่าทรัพย์สินภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ธนาคารฯ รับโอน • ราคาซื้อคืนของลูกหนี้หรือเจ้าของทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน ต้องไม่สูงกว่าราคาที่รับโอน บวกด้วยค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทรัพย์สินดังกล่าว (carrying cost) อีกไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี ของราคารับโอน และบวกค่าใช้จ่ายอื่นที่ธนาคารฯ ได้จ่ายไปตามจริงเพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินตามมาตรการ หักด้วย (ถ้ามี) ค่าเช่าที่ได้รับจากลูกหนี้หรือเจ้าของทรัพย์สินฯ ระหว่างสัญญา |
หมายเหตุ |
• ลูกหนี้จะได้รับยกเว้นภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการโอน • การอนุมัติเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารฯ |
|
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: |
สำหรับลูกค้าของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) |
• สาขาของธนาคารหรือ ICBC (Thai) Call Center (0 2629 5588) • เว็บไซด์ธนาคาร www.icbcthai.com |
สำหรับลูกค้าของบริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด |
• หมายเลขโทรศัพท์ 0 2876 7200 กด 1 และ 0 2626 8100 • เว็บไซด์บริษัท www.icbcthaileasing.com |